ทุกวันนี้หลายแบรนด์ตั้งใจทำคอนเทนต์จนเหนื่อย แต่ยอดขายกลับไม่ขยับ ไม่ใช่เพราะคอนเทนต์ไม่ดี แต่เพราะมันยังไปไม่ถึงคนซื้อจริงๆ เพราะในความเป็นจริง Content Marketing เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการสื่อสารการตลาดเท่านั้น ถ้าอยากให้แบรนด์เติบโตแบบมีผลลัพธ์ที่วัดได้จริง ต้องทำการตลาดแบบ Full Loop Marketing
ซึ่งการตลาดแบบนี้ในอีกนัยหนึ่งก็คือการทำการตลาดแบบแบบหลากหลายหรือ Integrated Marketing Communication ที่ทำให้ทุกช่องทางที่แบรนด์ใช้สื่อสารพูดเรื่องเดียวกัน ในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา การโปรโมชัน การ PR หรือการขายโดยตรง ทุกอย่างต้องเสริมกัน เหมือนวงดนตรีหลายชิ้นที่เล่นไปในจังหวะเดียวกันจนเกิดภาพจำของแบรนด์ จนจดจำเข้าไปในใจลูกค้า หรือพูดให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือคอนเทนต์ที่ดีคือเสียงที่ทำให้เกิดความไพเราะ แต่การสื่อสารที่หลากหลายช่องทางคือการทำให้ทั้งวงดนตรีมีทำนองที่เหมือนกัน ช่วยให้เสียงดังไกลและกลมกลืนมากยิ่งขึ้น
ซึ่งแน่นอนว่าหัวใจไม่ใช่การทำคอนเทนต์ให้มากขึ้น แต่คือการทำให้ “ทุกคอนเทนต์สื่อสารในทิศทางเดียวกัน” และผลักดันลูกค้าผ่านแต่ละช่วงของเส้นทางการซื้อได้อย่างต่อเนื่อง แคมเปญที่ดีในยุคนี้จึงไม่ได้หยุดแค่โพสต์หนึ่งโพสต์ แต่คือการวาง “บทสนทนา” ของแบรนด์ที่ต่อเนื่องกันในทุกแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงและต่อเนื่องระหว่างลูกค้ากับแบรนด์
และในยุคนี้ก็คงไม่พูดถึงเรื่องการใช้ AI เข้ามาช่วยเสริมแรงคนสำคัญของการตลาดแบบหลากหลาย นี้ด้วยการทำให้แคมเปญ “เร็วขึ้น แม่นขึ้น และเชื่อมโยงมากขึ้น” เพราะ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อดูว่าข้อความแบบไหน สไตล์ไหน หรือแพลตฟอร์มใดตอบสนองผู้บริโภคได้ดีที่สุด อีกทั้งยังสามารถช่วยวาง Media Mix และพยากรณ์ Performance เพื่อให้แต่ละช่องทางเสริมกันจริง ไม่แย่งพื้นที่กัน และยังสามารถวัดผล Cross-Channel Attribution เพื่อบอกได้ว่าช่องไหนมีผลต่อการซื้อจริง
ซึ่งการเข้ามาของ AI ช่วยให้ทีมสื่อสารการตลาด “คิดรอบด้าน” และทำได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาที่สั้นลง เพราะในยุคที่ข้อมูลมหาศาลและการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทุกวัน AI คือเครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์มองเห็นภาพรวมทั้งหมดได้ชัดเจนขึ้น
ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคือแคมเปญ “Share a Coke” ของ Coca-Cola ที่ใช้กลยุทธ์ที่กล่าวมาได้อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่โฆษณาทีวี สื่อออนไลน์ จนถึงกิจกรรมในร้านค้า ทุกช่องทางพูดเรื่องเดียวกันคือ “การแชร์ความสุขผ่านชื่อบนขวด” พร้อมใช้ AI วิเคราะห์ชื่อยอดนิยมในแต่ละประเทศ เพื่อปรับดีไซน์ขวดให้ตรงกับผู้บริโภคแบบเรียลไทม์ ผลคือยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 2% ในตลาดที่อิ่มตัวมานาน และทำให้แบรนด์กลับมาเป็นไวรัลระดับโลกอีกครั้ง
เมื่อแบรนด์สามารถทำให้ช่องทางต่างๆ สื่อสารไปในทิศทางเดียวกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือการสร้างความเข้าใจ ความไว้วางใจ และความเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับลูกค้าในทุกจุดสัมผัส เพราะเมื่อเสียงของแบรนด์ดังไปในทิศทางเดียวกัน ลูกค้าจะจดจำได้ง่ายขึ้นและรู้สึกเชื่อมั่นมากขึ้นด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก Thaibulksms